The directory provides the answer to all your convention and exhibition needs and requirement in Thailand.

NEWS

    

‘ททท.’ หนุนจัด ‘เอ็กซ์คลูซีฟ อีเวนต์’ อาวุธใหม่ท่องเที่ยวไทย ปั้นรายได้ปี 68

“เอ็กซ์คลูซีฟ

“เอ็กซ์คลูซีฟ อีเวนต์” (Exclusive Event) ขาย “ความพิเศษ” มีเฉพาะในไทย! คือ “อาวุธใหม่” ของภาคการท่องเที่ยวไทย ในการดึงชาวต่างชาติเข้ามาจับจ่ายเพื่อซื้อประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากจุดหมายปลายทางอื่นๆ

จิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เล่าว่า ตามแผนการโปรโมต “สินค้าด้านการท่องเที่ยว” ของ ททท. นอกเหนือจากการมุ่งขยายฐานตลาด “นิชมาร์เก็ต” ให้ตรงตามความสนใจเฉพาะเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ “กลุ่มใช้จ่ายสูง” เฉลี่ยเกือบ 80,000 บาทต่อคนต่อทริป ให้เดินทางเข้าไทยมากขึ้น โฟกัส 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism), กลุ่มท่องเที่ยวเชิงหรูหรา (Luxperience), กลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) และกลุ่มโรมานซ์ (Romance) คู่รักหรือคู่ฮันนีมูนแล้ว

ในระยะสั้น 1-3 ปีนับจากนี้จะเน้นส่งเสริมการจัดงานลักษณะ “เอ็กซ์คลูซีฟ อีเวนต์” จากทุกตลาด เช่น กีฬา ดนตรี และคอนเสิร์ต อย่างต่อเนื่องด้วย โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) เป็นผู้ศึกษาความคุ้มค่าในการดำเนินการเรื่องนี้ หลังเล็งเห็นศักยภาพของการจัดงานระดับโลกจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงได้เป็นอย่างดี

หรือแม้แต่ “อีเวนต์กีฬา” ในลักษณะเวิลด์ซีรีส์ (World Series) อย่างที่ผ่านมามีการแข่งขันวิ่งเทรล “HOKA CHIANG MAI THAILAND BY UTMB® 2024” เมื่อวันที่ 5-8 ธ.ค. ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรายการเวิลด์เมเจอร์ มีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 7,000 คน พบว่ากว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ หนุนสร้างรายได้รวมมากกว่า 800 ล้านบาท

รวมถึงรายการ “Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024” ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 3 งานแข่งวิ่งมาราธอนดีที่สุดในเอเชีย โดยมีนักวิ่งมาราธอนชื่อก้องโลก “เอเลียด คิปโชเก” มาเป็นทูตการท่องเที่ยวและกีฬา และร่วมวิ่งในงานนี้ด้วย ส่วนจำนวนนักวิ่งมาราธอนเข้าร่วมงานทั้งหมด ทุบสถิติมากเป็นประวัติการณ์ด้วยตัวเลข 33,712 คน เป็นชาวต่างชาติ 30% จาก 77 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้หมุนเวียน 660 ล้านบาท ทั้งนี้ “สรวงศ์ เทียนทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายให้ดึงสปอนเซอร์ระดับโลกเข้ามาร่วมสนับสนุนงานในปี 2568 เพื่อดึงดูดนักวิ่งจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น

ส่วนการจัดกิจกรรมอีเวนต์ด้านประเพณีต่างๆ นอกจากงานเคานต์ดาวน์ ตรุษจีน สงกรานต์ และลอยกระทง ที่ปัจจุบันหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างจัดอย่างยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ทำให้ ททท.ต้องมีนวัตกรรมใหม่ในการทำงาน เพื่อสร้างจุดขายให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ด้วยการยกระดับอีเวนต์ที่มีศักยภาพให้เป็น “อีเวนต์ประจำปี” สู่การเป็น “อีเวนต์ระดับเรือธง” (Flagship Event) ในอนาคต!

เฉกเช่น “วิจิตรเจ้าพระยา” งานแสดงแสงสีริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 แล้ว (ตั้งแต่ 16 พ.ย.-15 ธ.ค.) ได้สร้างปรากฏการณ์! เห็นพัฒนาการชัดเจนว่าเป็นงานที่ผู้คน “เอ็นจอย” อย่างมาก ทั้งเอ็นจอยกับการแสดงโชว์ ประเมินว่าจะมีผู้ชมสองฝั่งแม่น้ำไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และเอ็นจอยกับรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ใกล้บริเวณจัดงานซึ่งกระจายหลากจุด หลายชุมชน ร้านค้าร้านอาหาร เศรษฐกิจฐานรากได้ประโยชน์ กระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท คุ้มค่ากับงบลงทุนไป 58 ล้านบาทสำหรับงานนี้

“ททท.มองเรื่องการพัฒนางานประเพณีที่สามารถต่อยอดเป็นจุดขายใหม่ๆ เช่น ประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม สามารถขายการท่องเที่ยวเชื่อมสู่ลาว หรือกระจายไปยังเมืองน่าเที่ยวอื่นๆ ในไทยได้ เพราะเส้นทางท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงเป็นเส้นทางที่ชาวต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว หรือแม้แต่งานแห่ดาวคริสต์มาส จ.สกลนคร หรืองานเทศกาลด้านครีเอทีฟ เช่น เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week 2024) ตั้งแต่วันที่ 7-15 ธ.ค. ก็เป็นกิจกรรมที่ ททท.สามารถพัฒนาเพื่อสร้างจุดขายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าพื้นที่ได้มากขึ้นเช่นกัน”

นอกจากนี้ ททท.ยังส่งเสริมเทศกาลดนตรีนานาชาติ การประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ การแข่งขันกีฬาหรู เช่น การแข่งเรือยอชต์ และการส่งเสริมให้ไทยเป็นสถานที่จัดงานแฟชันโชว์ ขณะเดียวกันได้มุ่งเน้นสร้างความร่วมมือกับ “แบรนด์หรู” ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น แฟชัน สปา และโรงแรมหรู เพื่อสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นและน่าประทับใจแก่นักท่องเที่ยว “กลุ่มลักชัวรี” โดย ททท.จะรุกทำการตลาดในประเทศที่มีศักยภาพด้านลักชัวรี อาทิ สหรัฐ จีน และตะวันออกกลาง เพื่อนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมาย