The directory provides the answer to all your convention and exhibition needs and requirement in Thailand.

NEWS

    

ปิดฉากมหกรรมหนังสือ นักอ่านทุบนิวไฮ 1.4 ล้านคน สะพัด 438 ล้าน การ์ตูนขายดีสุด

“มหกรรมหนังสือ"

ปิดฉาก มหกรรมหนังสือฯ ทะลุเป้าร่วมงามทะลัก 1.8 ล้านคน วันสุดท้ายนิวไฮ 2.3 แสนคน เงินสะพัด 438 ล้าน ขายดีอันดับ 1 การ์ตูน 40% ตามด้วย นิยาย 30% จิตวิทยา-ฮีลใจ 20% นดันสถิติการอ่านไทยสูงขึ้นล่าสุดอ่านหนังสือเฉลี่ย 113 นาทีต่อวัน เล็งขยายพื้นที่จัดงานครั้งหน้าเพิ่ม 5,000 ตร.ม.

บิ๊กอีเวนต์ประจำปีเดือนตุลาคม “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29” สร้างประวัติศาสตร์ใหม่จากกระแสนักอ่านเข้าร่วมงานล้มหลาม พร้อมทำ ”นิวไฮ“ ยอดนักอ่านทะลุ 236,686 คน ในวันที่ 19 ต.ค.2567 สูงสุด หลังโควิด-19 ระบาด ส่งสัญญาณบวกอุตสาหกรรมหนังสือมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท โตสวนกระแสเศรษฐกิจ

นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า งานจัดตั้งแต่วันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 พบว่ามีนักอ่านและผู้สนใจทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 1.4 ล้านคน สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เติบโตสูงกว่าจีดีพีประเทศ

พร้อมกันนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ โดยวันที่ 19 ตุลาคม 2567 เพียงวันเดียว มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 236,686 คน จากสถิติเดิมสูงสุด 162,135 คน คาดเงินสะพัดสูงสุดกว่า 100 ล้านบาท มากที่สุดตั้งแต่จัดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติมาหลังจากโควิดระบาด

โดยกลุ่มคนที่เข้างาน แยกเป็น ผู้หญิง 63.78% ผู้ชาย 26.91% LGBTQ+ 6.90% และอื่นๆ 2.41% แบ่งเป็นช่วงอายุ 12-35 ปี จำนวน 69% เพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ส่วนช่วงอายุ 23-28 ปี จำนวนสูงถึง 23%

“งานมหกรรมหนังสือ"

หนังสือที่ขายดีในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 เรียงลำดับดังนี้

อันดับ 1 การ์ตูน 40%

อันดับ 2 นิยาย 30%

อันดับ 3 จิตวิทยา/ฮีลใจ 20%

และอื่นๆ หนังสือแบบเรียน หนังสือเด็ก หนังสือการลงทุน หนังสือสุขภาพ รวม 10%

คีย์ซัคเซสในการจัดงานครั้งนี้ มาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่

1.การจัดงานภายใต้ธีม “อ่านกันยันโลกหน้า” ที่แปลกใหม่กว่าทุกครั้งที่จัดมา และมีการสื่อสารที่ชัดเจน ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดผู้อ่านและผู้สนใจเข้าร่วมงาน

2. กระแสตอบรับที่ดีโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาเลือกซื้อหนังสือและร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีมากกว่า 100 กิจกรรม พร้อมกับการแชร์ผ่านโลกโซเชียล สร้างกระแสในวงกว้าง

3. การปรับตัวของสำนักพิมพ์และผู้ผลิตหนังสือ ที่นำสนองตอบต่อความต้องการของนักอ่านมากขึ้น เห็นได้จากการพัฒนารูปแบบหนังสือ เนื้อหา ทำให้หนังสือมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และดึงดูดให้นักอ่านกลับมาเลือกซื้อต่อเนื่อง โดยพบว่า สำนักพิมพ์ที่เปิดตัวหนังสือปกใหม่ ต่างได้รับความสนใจอย่างมาก ทั้งจากผู้ที่ซื้ออ่านและผู้ที่ซื้อสะสม รวมถึงนักเขียนต่างชาติก็ได้รับความสนใจจากผู้อ่านสูงเช่นกัน

“มหกรรมหนังสือระดับชาติ

อีกหนึ่งความสำเร็จที่เห็นได้ชัดคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของสำนักพิมพ์ต่างๆ อาทิ การจัดโปรโมชั่นลดกระหน่ำ, แจกไอเทมพรีเมี่ยม การจัดกิจกรรม “หยิบฟรีไม่อั้น บุฟเฟ่ต์เต็มถุงในราคา 199 บาท, 579 บาท และ 699 บาท หนังสือใหม่ ชั่งกิโลขาย ขีดละ 10 บาท ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เห็นได้จากยอดจองคิวผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการจองคิวเข้าร่วมซื้อที่หน้าบูธต่างๆ เป็นต้น ถือเป็นแรงดึงดูดให้นักอ่านและผู้สนใจเข้ามาร่วมงานมากขึ้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้พบว่ามียอดการซื้อหนังสือเฉลี่ย 600 บาทต่อคน ขณะเดียวกันพบว่ามีนักอ่านและผู้สนใจจำนวนมากที่มาร่วมงานมากกว่า 1 ครั้ง

“กระแสตอบรับล้มหลามครั้งนี้สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มฟื้นตัว ขณะที่หลายคนมองว่าหนังสือไม่ใช่ปัจจัย 4 แต่จากสถานการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นว่า นักอ่านจำนวนมากยังชื่นชอบการอ่านหนังสือ และยังต้องการเลือกซื้อหนังสือเล่มโปรด พร้อมกับมาร่วมกิจกรรมเพื่อได้พบกับนักเขียนคนโปรด และได้รับไอเทมพิเศษภายในงาน"

นับเป็นสัญญาณบวกต่ออุตสาหกรรมหนังสือเมืองไทยมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้คนไทยมีสถิติการอ่านที่สูงขึ้น จากงานวิจัยล่าสุด ในปัจจุบันที่พบว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ย 113 นาทีต่อวัน

“หนังสือ"

นายก PUBAT กล่าวอีกว่า การที่คนรุ่นใหม่หันกลับมาอ่านหนังสือมากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมหนังสือในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการอ่านของคนไทยในยุคดิจิทัลที่มีการเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ อย่างไรก็ดีการอ่านหนังสือไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างความรู้และทักษะ แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักอ่านกับนักเขียนและสำนักพิมพ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาวงการหนังสือในประเทศไทยให้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี สมาคมมีแนวคิดในการขยายพื้นที่จัดงานในครั้งต่อไป โดยจะขยายเพิ่มอีก 1 ฮอลล์ หรือประมาณ 5,000 ตร.ม. ส่งผลให้มีพื้นที่จัดงานเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 ตร.ม. จากเดิม 20,000 ตร.ม. ซึ่งจะทำให้สำนักพิมพ์ต่างๆ สามารถเข้าร่วมออกบูธได้มากขึ้น และมีหนังสือออกวางจำหน่ายเพิ่มขึ้น มีกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น สร้างโอกาสให้ผู้อ่านและผู้สนใจสามารถมาเดินเลือกซื้อหนังสือที่ตัวเองชื่นชอบ และร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น

“วันนี้ผู้ที่มาร่วมงานมหกรรมหนังสือฯ ไม่ได้มาเพื่อซื้อหนังสือเท่านั้น แต่ต้องการมาเพื่อสรรหาแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์พร้อมกับความสนุกสนาน ทำให้การจัดงานหนังสือในรูปแบบของเฟสติวัลได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งในการจัดงานหนังสือครั้งต่อไป นักอ่านจะได้พบกับธีมใหม่ๆ ที่เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทุกครั้ง”

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1149960