18 February 21 Source: สยามรัฐ by Thanticha
สถานการณ์โควิด-19 ยังคงกระทบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังไม่เปิด แต่ในส่วนการทำงานของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ก็ไม่หยุดนิ่งโดยได้พลิกโฉมการจัดงานไมซ์นานาชาติ
THAILAND MICE Virtual Expo ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่าง 24 - 25 กุมภาพันธ์นี้ สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเชื่อมโยงคู่ค้าตลาดโลก จัดเสวนาธุรกิจ และเวิร์กช็อปสื่อสารประเทศไทย คาดผู้เข้าร่วมทั่วโลกกว่า 3,000 ราย
โดย
คุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่างาน Thailand MICE Virtual Expo เป็นงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในรูปแบบเสมือนจริงเต็มรูปแบบครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อสร้างความพร้อมและรักษาความสามารถทางการแข่งขันของไทยในตลาดไมซ์โลกที่ยังคงเผชิญกับการปิดกั้นการเดินทางเพราะโควิด-19 โดยนำวิทยาการสมัยใหม่มาจัดงานในลักษณะเสมือนจริง
ด้วยองค์ประกอบครบถ้วน ได้แก่ การเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการไมซ์กับผู้ซื้อนานาประเทศทั่วโลก การเสวนาทางธุรกิจเพื่อเพิ่มพูนความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้อยู่ในวงการธุรกิจและอุตสาหกรรมไมซ์ไทย รวมถึงเวิร์คช็อปต่าง ๆ
นอกจากการเจรจาการค้าเพื่อหวังผลในอนาคตแล้ว ผู้ที่เข้ามาร่วมงานทางเทคโนโลยีเสมือนจริงนี้ จะได้ประโยชน์จากการเสวนาที่ครอบคลุมหัวข้อธุรกิจต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น เทรนด์การจัดงานในอนาคต ดิจิทัล โลจิสติกส์ อาหาร เป็นต้น ซึ่งจะมีการนำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา และทุกเรื่องล้วนแต่เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคตทั้งสิ้น
คุณจิรุตถ์ กล่าวว่า จากรายงานล่าสุด ของสถาบันโลวี สถาบันวิจัยของออสเตรเลียเผยการจัดอันดับประเทศไทยรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก จากประเทศที่สำรวจทั้งหมด 98 ประเทศ ส่วนด้านการดำเนินธุรกิจจากรายงานของ U.S. News & World Report ประจำปี 2563 พบว่าไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่หนึ่งของโลกในฐานะประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจจาก 73 ประเทศทั่วโลก และสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ยังจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับหนึ่งของประเทศที่มีแนวโน้มจะเป็นตลาดเกิดใหม่ ที่มีภาพรวมทางเศรษฐกิจดีที่สุดในปี 2564 จาก 17 ประเทศเช่นกัน
โดยการจัดงานครั้งนี้ ตั้งเป้าผู้ร่วมงานจากทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ครอบคลุมตลาดระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและจีน 80% และตลาดระยะไกลในยุโรปและสหรัฐอเมริกา 20% ซึ่งคาดว่าจะผลักดันเป้าหมายการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยในปี 2564 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 64,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2564 นี้
ด้าน
คุณสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงผลการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ว่า สามารถทำให้ผู้ประกอบการไทยขายสินค้าได้ แม้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีทูตพาณิชย์คัดกรองผู้ซื้อที่มีคุณภาพในต่างประเทศให้มาเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการศักยภาพของไทย โดยทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อศึกษากันและกันล่วงหน้าก่อนเริ่มการเจรจาการค้า การซื้อขายระหว่างกันจึงมีศักยภาพมากขึ้นสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกได้
สำหรับการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระหว่างผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยและผู้ให้บริการโลจิสติกส์เมียนมาในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เกิดการจับคู่เจรจาการค้าทั้งสิ้น 49 คู่ สร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 10.9 ล้านบาท และการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ระหว่างผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สปป.ลาว เมื่อเดือนมกราคม เกิดการจับคู่เจรจาการค้า 36 คู่ สร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 120 ล้านบาท
***************************************************
ขอบคุณข้อมูลและภาพโดย สยามรัฐ
ข่าวน่าสนใจ
“ทีเส็บ” ชูกลยุทธ์หลัก “2HY” ยกระดับสถานที่จัดงานไมซ์
เปิด 6 กลยุทธ์อุ้มไมซ์สู้โควิด-19 “ทีเส็บ” ผนึกเอกชนเดินหน้าลุย
